สัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับฯ "ชิฮิโระ อิโตะ" จากภาพยนตร์เรื่อง In Her Room

 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง In Her Room (ひとりぼっちじゃない หรือ "ฮิโตริ โบทจิ จาไน") หนึ่งในภาพยนตร์กลุ่ม Nippon Cinema Now เปิดตัวฉายรอบปฐมทัศน์ World Premiere ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว ครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา ด้วยความกรุณาจากคณะกรรมการผู้จัดงานปลพค่ายหนัง เราได้รับเกียรติเข้าสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวกับ "ชิฮิโระ อิโตะ" ผู้กำกับสาวที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังอย่าง "อิซาโอะ ยูกิซาดะ" มานานหลายสิบปี ในที่สุดเธอได้เปิดตัวผลงานเรื่องแรกในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ เธอจะเล่าถึงแนวคิดในการทำหนัง รวมทั้งสไตล์การทำงานสำหรับหนังเรื่องแรกในฐานะผู้กำกับฯ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ปล่อยให้เราได้สนุกไปกับจินตนาการ และความรู้สึกของตัวละครหลักที่ชื่อ "สุสุเมะ" นำแสดงโดยซาโตรุ อิงูจิ สมาชิกวง King Gnu ศิลปินวงเจป็อปชื่อดังของญี่ปุ่น

ช่วงแรก เราจะเห็นทันตแพทย์ "สุสุเมะ" ใช้ชีวิตไปวันๆ หลังเลิกงาน เป็นคนไม่มีเพื่อน เขาเริ่มปล่อยอารมณ์เต็มที่หลังจากได้รู้จักกับ "มิยาโกะ" (นำแสดงโดยฟูมิกะ ยาบา) หญิงสาวที่ดูลึกลับอาศัยอยู่ในห้องตามลพัง ทั้งสองสานสัมพันธ์กัน ในท้ายที่สุด เขาพูดคุยกับครอบครัว พร้อมกับตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง

นวนิยายต้นฉบับถูกเขียนในแบบบันทึกประจำวัน หรือไดอารี่ ความรู้สึกของ "สุสุเมะ" ถูกบรรยายด้วยข้อความตัวอักษร แต่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ความรู้สึกทั้งหมดของเขาถูกนำเสนอให้เห็นเป็นภาพอย่างชัดเจน ทั้งจากบทสนทนา, อากัปกิริยา และการแสดงออกทางอารมณ์ ด้วยข้อจำกัดกำหนดเวลาการถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทำตามลำดับเวลา และตามลำดับเหตุการณ์ในเรื่อง แต่ถ่ายทำแบบกระโดดซีน ข้ามไปข้ามมาตลอดเวลา นักแสดงนำอย่างซาโตรุ อิงูจิ สามารถถ่ายทอดบทบาทของ "สุสุเมะ" ให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขาในตอนท้ายของแต่ละฉากได้อย่างน่าทึ่ง

inStyle Asia:  อะไรคือเหตุผลหลักที่คุณตัดสินใจทำหนังเรื่องนี้ครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ความฝันของดิฉัน คือ การเขียนนวนิยายที่สามารถนำเนื้อเรื่องต้นฉบับมาดัดแปลงทำเป็นภาพยนตร์ได้ ดิฉันใช้เวลาเกือบ 10 ปีทีเดียว มันนานมากเลยสำหรับการเขียนบทภาพยนตร์จากนวนิยายต้นฉบับ ระหว่างที่ดิฉันใข้เวลากับงานเขียนนานหลายปี ดิฉันเขียนออกมาเป็นตัวอักษร แล้วดิฉันจะสื่อสารกับผู้คนได้อย่างไร รวมทั้งตัวละครหลักในหนังสามารถสื่อสารกับผู้คนได้อย่างไร 

นวนิยายต้นฉบับนั้นเล่าเรื่องราวในรูปแบบบันทึกประจำวันหรือไดอารี่ ดิฉันอาจใจจดใจจ่อกับตัวละครหลักมากเกินไปก็เป็นได้ ดิฉันคิดเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารและมีใจอยากเป็นผู้กำกับหนัง ดังนั้น ขณะที่ฉันเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ฉันก็คิดดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง

การเป็นผู้กำกับหนัง คุณต้องสื่อสารกับผู้คนจำนวนมาก ถูกตั้งคำถามมากมาย และฉันต้องพินิจพิจารณา และตอบคำถามทุกครั้ง แน่นอนว่าชีวิตของดิฉันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ดิฉันเลือกที่จะมีไลฟ์สไตล์แบบนี้ค่ะ

©In Her Room Film Partners 

inStyle Asia: พูดถึงการคัดตัวนักแสดงนำ ทำไมคุณถึงเลือก "ซาโตรุ อิงูจิ", "ฟูมิกะ บาบา" และ "ยูมิ คาไว"? อะไรคือเหตุผลสำคัญที่คุณตัดสินใจเลือกนักแสดงทั้งสามท่านนี้ครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ขณะที่ดิฉันทานอาหารค่ำกับแฟนๆ อยู่นั้น ฉันได้พบกับซาโทรุ อิงูจิค่ะ จริงๆ แล้ว ฉันได้ชมการแสดงของเขาในหนังเรื่องหนึ่งของผู้กำกับอิซาโอะ ยูกิซาดะ ฉันชอบการแสดงของเขา เริ่มรู้จักบุคลิกของเขา พอเริ่มทำหนังที่สร้างอิงจากนวนิยายของตัวเอง ดิฉันนึกถึงเขาค่ะ เขาเป็นนักแสดงที่ดี และยังเป็นนักแสดงคนแรกที่ผุดขึ้นมาในใจ

สำหรับฟุมิกะ บาบา ฉันชอบรูปลักษณ์ และรูปร่างของเธอค่ะ รวมทั้งใบหน้าของเธอ เมื่อฉันนึกถึงตัวละครที่ชื่อ "มิยาโกะ" ดิฉันคิดว่าฟูมิกะ บาบาควรจะมาเล่นบทนี้ค่ะ

ส่วน "ยูมิ คาไว" ฉันเห็นเธอจากหนังญี่ปุ่นเรื่อง Sasaki In My Mind ฉันประทับใจการแสดงของเธอ พอนึกถึงหนังที่ตัวเองต้องกำกับ ดิฉันนึกถึงเธอ เธอเหมาะกับบทนี้ค่ะ

©In Her Room Film Partners
inStyle Asia: เราได้ยินเสียงน้ำเป็นเสียงเพลงประกอบฉากหลังในหนังด้วย ช่วยเล่าเหตุผลทำไมคุณถึงเลือกเสียงน้ำมาเป็นเสียงเพลงประกอบครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: จริงๆ แล้วมันเป็นเสียงน้ำในครรภ์มารดาค่ะ ในหนังเรื่องนี้ ดิฉันต้องการถ่ายทอดครรภ์มารดา หรือ "ความเป็นผู้หญิง" เป็นฉากหลังค่ะ อุปมาให้เรารู้สึกได้ด้วยเสียงประกอบ (เสียงน้ำ) ความตั้งใจแรกสุดของดิฉัน คือ อยากให้ผู้ชมรู้สึกว่าพวกเขากำลังอยู่ในครรภ์มารดา ขณะได้ยินเสียงนี้ค่ะ

©In Her Room Film Partners
inStyle Asia: หนังเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยผู้กำกับอิซาโอะ ยูกิซาดะ ในฐานะโปรดิวเซอร์ คุณได้รับอิทธิพล หรือแรงบันดาลใจจากเขาบ้างไหมครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ดิฉันทำงานกับผู้กำกับอิซาโอะ ยูกิซาดะเป็นประจำอยู่แล้ว และทำงานในฐานะนักเขียนบทภาพยนตร์ให้กับหนังของเขาหลายเรื่องด้วย ส่วนตัวในฐานะผู้กำกับหนังเรื่องนี้ สิ่งที่ฉันคิด คือ จะทำหนังออกมาได้อย่างไร หรือมีอะไรที่ฉันได้เรียนรู้จากเขา พอมันต้องนำเสนอออกมาเป็นเรื่องราว ทำให้เห็นภาพชัดเจน ฉันขอคำแนะนำจากเขา และเขาก็มักแนะนำฉันเสมอค่ะ

inStyle Asia: คุณขอคำแนะนำจากผู้กำกับอิซาโอะ ยูกิซาดะ ขณะถ่ายทำหนัง?

ขิฮิโระ อิโตะ: เมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้น ดิฉันเปิดตัวในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ เนื่องจากความคิดของอิซาโอะ ยูกิซาดะ มีอิทธิพลและมีพลังอย่างมาก ดิฉันไม่อยากถูกลากเข้าไปอยู่ในวงความคิดของเขา ดิฉันต้องการเปิดตัวตนของดิฉันด้วยการแสดงออกในแบบของดิฉันเองค่ะ

inStyle Asia: ฉากที่คุณชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้?

ชิฮิโระ อิโตะ: มีหลายฉากเลยที่ชอบ สำหรับฉากที่ชอบมากที่สุด น่าจะเป็นตอนที่ "มิยาโกะ" (ฟูมิกะ บาบา) นอนบนถนนค่ะ

inStyle Asia: คุณคิดว่าอะไรคือจุดเด่นสุดของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้หนังของคุณดูแตกต่างไปจากหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ดิฉันไม่รู้ว่าแนวหนังที่คุณกำลังคิดตอนนี้เป็นหนังแนวไหน มันอาจต่างไปจากแนวหนังที่ดิฉันกำลังคิดอยู่ก็เป็นได้ ดิฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นมากค่ะ และเป็นเรื่องยากที่จะจัดกลุ่มหนังเรื่องนี้ให้เป็นหนังแนวใดแนวหนึ่ง

หากคุณคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนัง "แนวความรัก" จุดเด่นของหนังที่ทำให้ดูแตกต่างจากหนังเรื่องอื่น คงเป็นตัวละครหลักที่มีชื่อว่า "สุสุเมะ" (ซาโตรุ อิงูจิ) เรื่องราวของเขาดำเนินอยู่นอกแก่นหลักของเรื่อง มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขา แต่เขาไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ และไม่ได้ถูกจับให้เจ้าไปอยู่ใจกลางของเรื่องราวเหล่านั้นด้วย

หากคุณจัดให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนว "ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน" ความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหนัง เช่น การที่ผู้คนได้พบกัน อยากอยู่ด้วยกัน ล้วนเกิดขึ้นรอบๆ ตัว "สุสุเมะ" ตัวละครหลักของเรื่อง แต่มันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับตัวเขาเลย

inStyle Asia: แล้วถ้าคุณกำหนดแนวหนังของคุณเรื่องนี้ คุณคิดว่าน่าจะเป็นหนังแนวอะไรครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: น่าจะเป็นหนังแนว "สยองขวัญ" ค่ะ

inStyle Asia: เราทราบว่าหนังเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกของคุณในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ แต่ก่อนหน้านี้ คุณมีประสบการณ์โชกโชนในวงการภาพยนตร์ เช่น นักเขียนบทภาพยนตร์ และอีกมากมาย อยากทราบว่าการทำหนังในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์นั้นแตกต่างจากงานอื่นๆ ที่เคยทำก่อนหน้านี้ไหมครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ทุกอย่างแตกต่างกันมากค่ะ ตัวอย่างเช่น จำนวนคนที่เราต้องทำงานด้วยนั้นแตกต่างกันมากค่ะ ตอนที่ดิฉันเขียนบทภาพยนตร์ ดิฉันต้องการเคารพสไตล์การทำงานของผู้กำกับฯ อยากให้พวกเขามีพื้นที่ว่าง ได้ใส่จินตนาการด้วยตัวเอง ฉันอยากเขียนบทภาพยนตร์ให้ดูกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ตอนเขียนบทให้หนังตัวเอง ดิฉันก็ทำแบบเดียวกันนี้ นักแสดงต่างตั้งคำถามดิฉันมากมาย ดิฉันทราบดีว่าได้เปิดพื้นที่มากมายให้ผู้กำกับฯ ได้ใส่จินตนาการและสไตล์การกำกับในบทภาพยนตร์ที่ดิฉันเขียนเรื่องก่อนหน้า ในครั้งนี้ ดิฉันต้องถ่ายทอดตัวอักษรออกมาให้เห็นภาพชัดเจน ทำให้นักแสดงต่างตั้งคำถามดิฉันมากมาย

inStyle Asia: คุณคิดว่าสถานการณ์โควิดส่งผลกระทบกับหนังของคุณไหมครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: ตอนที่ดิฉันเขียนนวนิยายอยู่นั้น เราอยู่ในสถานการณ์โควิดแล้ว ขณะที่ดิฉันดัดแปลงนวนิยายเป็นบทภาพยนตร์ก็เป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาดหนัก ฉันทราบดีว่าผู้คนมากมายต่างตื่นตระหนก ให้ความสำคัญกับการรักษาระยะห่างทางสังคมในตอนนั้น มันเป็นธีมดั้งเดิมที่ดิฉันอยากเขียนลงไปในนวนิยายอยู่แล้ว แต่พอดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ ดิฉันกลับละเลย แต่ฉันคิดว่าได้ใส่ประเด็นนี้ลงไปในตัวหนังแล้ว ดิฉันใช้การแสดงของตัวละคร ปล่อยให้ผู้ชมได้รู้สึกถึงธีมนี้จากการแสดงค่ะ

inStyle Asia: สุสุเมะ ตัวละครหลักของเรื่องเป็นคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำไมคุณคิดว่าการย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนางาซากิ สามารถเปลี่ยนชีวิตเขาได้ครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: แม้แต่ตัวละครที่ชื่อ "สุสุเมะ" ในหนังยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไมเขาถึงอยากไปอยู่ที่นั่น แต่เขาต้องการเปลี่ยนสถานที่ อยากใช้ชีวิตให้แตกต่างไปจากเดิม และมันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเช่นนั้น ดิฉันคิดว่าการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญมาก ดิฉันก็ทำเช่นเดียวกันในตอนที่ตัดสินใจกำกับหนังเรื่องนี้

สุสุเมะ คิดว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนนี้ มีท่าทีที่จะเปลี่ยนให้ได้ มันเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเขาประกาศด้วยตัวเองที่จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

ดิฉันคิดว่า ในท้ายที่สุด ผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต บางคนเลือกเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนงาน เปลี่ยนความสัมพันธ์ เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของพวกเขาเอง ตอนสร้างหนัง ดิฉันไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้เลย แต่ผู้คนมักเลือกทำเช่นนั้น

ซาโตรุ อิงูจิ นักแสดงนำในดรื่อง

inStyle Asia: ในหนัง เราเห็นคุณแม่ของสุสุเมะ ใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนหญิงราวกับเป็นคู่ชีวิต คุณต้องการใส่ประเด็นรักรวมเเพศในหนังเรื่องนี้ด้วย?

ชิฮิโระ อิโตะ: ดิฉันไม่ชอบเรื่องการกำหนดขอบเขต พูดถึงเรื่องเพศ ดิฉันไม่ชอบแนวคิดเรื่องความแตกต่างทางเพศ กับการกำหนดขอบเขตทางเพศ แม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ ดิฉันไม่คิดว่าการสร้างความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคนที่มีเพศตรงกันข้ามเท่านั้น ในความรู้สึกของฉัน ดิฉันอยากนำเสนอประเด็นเหล่านี้ลงไปในงาน ดิฉันคิดว่าการใช้ชีวิตของพวกเราควรจะเป็นอิสระแบบเดียวกับพวกเขา 

inStyle Asia: แล้วผลงานเรื่องถัดไปล่ะครับ?

ชิฮิโระ อิโตะ: เมื่อวาน ดิฉันเพิ่งชมเอง หนังเรื่องที่สองของฉันสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับระยะห่างระหว่างผู้คนซึ่งเป็นฉากหลังของเรื่อง

บางคนบอกว่าไม่น่าเชื่อเลยว่าหนังเรื่องที่สองนี้กำกับโดยผู้กำกับคนเดียวกัน ดูบางเบากว่า ดูอบอุ่นมากกว่า แต่สำหรับตัวดิฉัน ธีมของหนังคล้ายหนังเรื่องแรกเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่คุณอยากจะอยู่ด้วยในวันพรุ่งนี้

inStyle Asia: ขอบคุณมากครับ หลังได้ชมหนังเรื่องแรกของคุณแล้ว เราเชื่อว่ามีผู้ชมมากมายทีาคิดเหมือนเรา อยากอ่านนวนิยายต้นฉบับ และรอคอยผลงานเรื่องที่ 2 กันเร็วๆ นี้

เกี่ยวกับภาพยนตร์ 

เรื่องย่อ: ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในฐานะกำกับฯ ของ "ชิฮิโระ อิโตะ"ดัดแปลงจากนวนิยายของผู้กำกับฯ อำนวยการสร้างโดยอิซาโอะ ยูกิซาดะ รวมทั้งยังเป็นผลงานแรกในฐานะนักแสดงนำของ "ซาโทรุ อิงูจิ" ทันตแพทย์ที่ดูเปิ่นๆ จิตใจบอบบาง อ่อนไหวง่ายที่กำลังมีปัญหาเรื่องความรัก

ชื่อเรื่อง: In Her Room (ひとりぼっちじゃない in Japanese) ดัดแปลงจากนวนิยายต้นฉบับของ "ชิฮิโระ อิโตะ"

ผู้กำกับภาพยนตร์: ชิฮิโระ อิโตะ 

ผู้อำนวยการสร้าง: อิซาโอะ ยูกิซาดะ

นักแสดงนำ: ซาโทรุ อิงูจิ (สมาชิกวง King Ngu), ฟูมิกะ บาบา, คาไว ยูมิ 

วันฉายทั่วประเทศ: 10 มีนาคม 2023

ภาษาที่พูดในภาพยนตร์: ภาษาญี่ปุ่น 

อินสตาแกรมหลักIn Her Room 

เว็บไซต์หลักIn Her Room


No comments

Post a Comment

©2024 inStyle Asia All Rights Reserved.
Designed by Creatopia Space