ผู้กำกับ Oomori Mika (大森美香)
ปีที่ฉาย (ปี 2006) ทางสถานีโทรทัศน์ Nippon TV Network
“นายซากากิ มากิโอะ” (Sakaki Makio นำแสดงโดย “Nagase Tomoya [長瀬智也]”) เป็นลูกชายหัวหน้าแก๊งยากูซ่าวัย 27 ปี มีเหตุจำเป็นต้องกลับไปเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง เพราะไปคำนวณผิดทำให้แก็งค์ของเขาต้องสูญเงินไปหลายล้านเยนให้กับแก็งค์มาเฟียกลุ่มหนึ่งที่ฮ่องกง อีกทั้งเขาเป็นคนใจร้อน ไม่สามารถคิดอะไรได้นานเกินกว่า 90 วินาที หากโมโหขึ้นมาแล้วไม่มีใครสามารถเอาเขาอยู่ได้ และยังใช้แต่กำลัง โดยไม่เคยใช้สมอง แม้แต่พ่อของเขาก็ยังเอือมระอา “ซากากิ คิอิชิ” พ่อของเขาจึงตัดสินใจติดสินบนกับเพื่อน “มินามิ ทากายูกิ” (Minami Takayuki นำแสดงโดย “Iwaki Koichi [岩城滉一]”) ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมเล็กๆแห่งหนึ่งให้รับนายมากิโอะไว้ โดยได้ส่งนายมากิโอะกลับไปเรียนชั้นมัธยมปลายปีสุดท้าย และปิดบังสถานภาพความเป็นทายาทของเจ้าพ่อแก็งค์ยากูซ่าเอาไว้ มีเพียงอาจารย์ใหญ่เท่านั้นที่ล่วงรู้ความจริง และนายมากิโอะยังมีเดิมพันกับคุณพ่อว่า หากเขาเรียนไม่จบ จำเป็นต้องยกตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของแก็งค์ให้กับน้องชายแท้ๆของตนซึ่งมีปัญหาด้านสุขภาพ และเพิ่งเดินทางกลับจากการศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม ความวุ่นวายต่างๆก็เกิดขึ้นกับนายมากิโอะ อาจารย์โฮมรูมของเขาเป็นลูกสาวของอาจารย์ใหญ่ที่นายมากิโอะได้ตั้งฉายาให้เธอว่า “หน้ากากอำมหิต” เขาไม่สามารถแม้แต่จะเขียนชื่อของตัวเองด้วยตัวอักษรคันจิ พื้นฐานในวันแรกที่เข้าชั้นเรียนได้ ประเด็นที่สอง เขาเข้ามาศึกษาในชั้นปีสุดท้ายของมัธยมปลาย ขณะที่ความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขามีเพียงระดับชั้นมัธยมต้นเท่านั้น ทำให้เพื่อนๆของเขาต่างดูหมิ่นดูแคลน และเขายังไม่สามารถสูบบุหรี่ในชั้นเรียนได้ ประเด็นที่สาม การวางแผนพิชิตขนมพุดดิ้งที่อร่อยมาก จำหน่ายเพียงสิบสองถ้วยต่อวัน และนักเรียนทุกคนต่างช่วงชิงกันในยามพักกลางวัน ด้วยความคิดของนายซากุระโคอุจิ จุน (Sakurakouji Jun นำแสดงโดย “Tegoshi Yuya [手越祐也]”) เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาที่แนะนำให้ประดิษฐ์ปีกนกและนำไปติดบนหลังเพื่อกระโดดข้ามตึก ตามหลักการของทฤษฎีพาราโบลาที่ได้เรียนในชั้นเรียน โดยมีจุดหมายเพื่อให้นายมากิโอะสามารถกระโดดข้ามตึกไปเอาขนมพุดดิ้งได้สำเร็จ นายมิกิโอะสามารถหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงมิตรภาพ และความสำเร็จที่พิชิตเอาขนมพุดดิ้งได้
โปสเตอร์ภาพยนตร์เกาหลี (ต้นฉบับ)
ประเด็นที่สี่ คือ การผจญกับกลุ่มแก็งค์นักเรียนรีดไถในโรงเรียน การที่นายมากิโอะเข้าไปช่วยนายจุน เพื่อนร่วมชั้นจากกลุ่มแก็งค์นี้ ทำให้นายจุนนับถือนายมากิโอะเป็นเพื่อนแท้ และมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนร่วมชั้นอย่าง “นายซากุระโคอุจิ จุน” ที่คอยช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้เขามาโดยตลอด รวมทั้งเหตุการณ์ที่นายมากิโอะได้รับคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และนำทีมกีฬาบาสเกตบอลประจำชั้นจนประสบความสำเร็จ ทำให้นายมากิโอะเริ่มปรับตัวเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน นายมากิโอะจำต้องมีเพื่อนร่วมชั้นอายุอ่อนกว่าเป็นสิบปี เขาได้ตกหลุมรักกับสาวน้อยนามว่า “อุเมมุระ ฮิคาริ” (Umemura Hikari นำแสดงโดย “Aragaki Yui [新垣結衣]”) เพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคนหนึ่ง ที่เคยออกเดทกันครั้งแรกในการเล่นเกมของโรงเรียนในยามค่ำคืนก่อนจบการศึกษา และนายมากิโอะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเผชิญหน้ากับความโหดร้ายของการสอบปลายภาค และความเข้มงวดของอาจารย์ “มินามิ ยูริโกะ” (Minami Yuriko นำแสดงโดย “Kashii Yu [香椎由宇]”) อาจารย์โฮมรูมซึ่งมีอายุน้อยกว่านายมากิโอะถึง 2 ปี ระหว่างศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น นายมากิโอะได้รับความช่วยเหลือจากลูกน้องในแก็งค์ของเขานามว่า “มานาเบะ คาซูยะ” (Manabe Kazuya นำแสดงโดย “Tanaka Koki [田中聖]”) ซึ่งปลอมตัวเข้ามาในโรงเรียน และยอมทุ่มกายถวายชีวิตให้นายใหญ่ของตนมาโดยตลอด
นายมากิโอะใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้มาซึ่งใบประกาศนียบัตรตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อ ส่วนคุณพ่อของนายมากิโอะเองก็แสดงบทบาทของความเป็นพ่อเป็นครั้งแรก ครอบครัวที่ห่างเหินได้กลับมากลมเกลียวอบอุ่นอีกครั้ง ขณะเดียวกันเขายังได้รับการสืบทอดอำนาจต่อจากคุณพ่อให้เป็นหัวหน้ากลุ่มแก็งค์มาเฟียจากการคัดเลือกภายในกลุ่มเขตอิทธิพลของคุณพ่อ แต่ด้วยอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง แก็งค์อันธพาลคู่อริของเขาได้บุกเข้ามาถึงโรงเรียนก่อนพิธีจบการศึกษาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้เพื่อนๆและคณาจารย์ทุกคนต่างล่วงรู้ความลับของนายมากิโอะ เป็นเหตุให้เขาพ้นสภาพความเป็นนักเรียนทันที อย่างไรก็ตาม นายมากิโอะก็ได้แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของแก็งค์แล้วมอบตำแหน่งดังกล่าวให้กับน้องชายแท้ๆของตนเอง เพราะไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อได้ ความผูกพันตลอดระยะเวลา 1 ปีที่นายมาคิโอะได้ใช้ชีวิตที่โรงเรียน สถานที่ที่เขาเคยหนีมันมาตลอดในวัยเยาว์ ทำให้เขาได้ค้นพบ และสัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิต จากข้อคิดที่ได้จากอาจารย์พยาบาลนามว่า “มิซุชิมะ ซึบากิ” ซึ่งปรากฏตัวเข้ามาเป็นระยะๆ เมื่อตัวละครเอกอย่างนายมากิโอะตกอยู่ในห้วงแห่งความสับสน และท้อแท้ เธอได้เล่าเรื่องราวของ “Hellen Keller”ให้เขาฟัง ความว่า
“ความสุขของวัยหนุ่มสาว คือมิตรภาพ ความสนุกจากการแสวงหาความรู้ที่มีอยู่รอบตัว ความรัก และความผิดพลาดของวัยหนุ่มสาวที่ผ่านไป หากสักวันเมื่อหวนกลับมาระลึกถึงคราใด ก็มิอาจลืมเลือนไปจากความทรงจำ”
ชีวิตแห่งวัยหนุ่มสาวหาใช่การพิพากษาด้วยคะแนนสอบที่เป็นเพียงสิ่งสมมติไม่ หากเมื่อกาลเวลาได้ผ่านไปแล้ว อันดับของคะแนนในชั้นเรียนอาจจะไม่มีความหมายใด หรือมีคุณค่าต่อความทรงจำของชีวิตเลยก็ได้ แม้ว่านายมากิโอะไม่ได้รับใบประกาศนียบัตรจากโรงเรียน แต่เขากลับได้รับประกาศเกียรติคุณจากอาจารย์ประจำชั้น และเพื่อนร่วมห้องทุกคนในวันสุดท้ายของการเรียน
ผู้เขียน : ธีรภัทร์ เพิ่มประยูร